ทันตอุปกรณ์ เป็นทางเลือกที่ดี ถ้าเลือกเคสได้เหมาะสมในการรักษาผู้ป่วยนอนกรน และหรือมีการหยุดหายใจขณะหลับร่วม ทันตอุปกรณ์ ทำจากวัศดุทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการนอน เป็นผู้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยการพิมพ์ฟันผู้ป่วย เพื่อนำมาผลิตทันตอุปกรณ์เฉพาะบุคคล (custom-made oral appliance) ผู้ป่วยสวมทันตอุปกรณ์ได้เองตามคำแนะนำของทันตแพทย์ โดยสวมที่ฟันบนและฟันล่างในขณะนอนหลับ ผู้ป่วยและทันตแพทย์สามารถปรับทันตอุปกรณ์เพื่อให้ขากรรไกรล่างยื่นเข้าออกได้
ทันตอุปกรณ์จะช่วยทำให้ลิ้น ขากรรไกรล่างและเนื้อเยื่อในลำคอไม่หย่อนตัวไปอุดกั้นททางเดินหายใจ ในขณะนอนหลับ ทำให้ทางเดินหายใจกว้าง และกล้ามเนื้อตึงตัวมากขึ้น หายใจได้สะดวก ลดการนอนกรน และทำให้นอนหลับสนิทดีขึ้น การรักษาได้ผลดีในผู้ป่วยที่นอนกรนอย่างเดียว หรือนอนกรนร่วมกับหยุดหายใจในระดับรุนแรงน้อยถึงปานกลาง (ระดับความรุนแรงดูจากผลการตรวจการ (Sleep test) มีค่าการหยุดหายใจ ไม่เกิน 29 ครั้งต่อชั่วโมง (AHI < 29)) หรือผู้ป่วยที่มีการหยุดหายใจรุนแรงมากที่เคยรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบอก (CPAP) แต่ไม่ได้ผล
ทันตอุปกรณ์สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เช่น ใช้ร่วมกับเครื่องอัดอากาศแรบดันบวกทำให้แรงดันอากาศลดลงทำให้ใส่เครื่องอัดอากาศได้สบายขึ้น ใช้ร่วมกับการผ่าตัดบริเวณจมู เพดานปาก ลิ้นไก่ โคนลิ้น แก้ไขการอุดกั้นของแต่ละส่วน ใช้ร่วมกับการปรับท่านอนตะแคง การบริหารคอหอย และลดน้ำหนัก ทำให้ได้ผลเร็วและชัดขึ้น ใช้เพื่อรักษานอนกัดฟันร่วมกับนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ก่อนจะเลือกวิธีการรักษาชนิดใดก็ตาม ท่านจะต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน (Sleep medicine) เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินและ วินิจฉัยด้วยการตรวจการนอน (Sleep test) ก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ผลข้างเคียงจากการรักษาไม่ได้เกิดกับทุกคน ไม่รุนแรง และดีขึ้นปรับตัวห้คุ้นชินกับทันตอุปกรณ์ผลข้างเคียงในระยะสั้น ในช่วงแรกอาจพบอาการเจ็บตึงเล็กน้อยบริเวณฟันหงือกบางซี่ ปวดเมื่อยกราม และขากรรไกรชั่วครู่หลังถอดทันตอุปกรณ์ มีน้ำลายออกมาก หรือปากแห้ง ปัญหาดังกล่าวมักจะดีขึ้นหลังปรับตัวสักระยะหนึ่ง ผลข้างเคียงในระยะยาวอาจมีการสบฟันเปลี่ยนที่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามอาการต่างๆ เหล่านี้ไม่มีความรุนแรงและสามารถป้องกัน แก้ไขได้โดยผู้ป่วยต้องมาตามที่ทันตแพทย์นัด เพื่อติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ทันตอุปกรณ์มีขนาดเล็กพอดีกับปากฟัน สะดวกสบายในการใช้พกพาง่ายขณะเดินทางและไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
ผู้ป่วยทุกคนที่ใช้ทันตอุปกรณ์จะต้องมาตามนัดติดตามการรักษากับทันตแพทย์ในขณะรักษาเพื่อประเมินการตอบสนองการรักษา เมื่ออาการนอนกรนและการนอนหลับดีขึ้น ผู้ป่วยจะต้องตรวจการนอน (Sleep test) ซ้ำอีกครั้ง โดยทันตแพทย์ท่านเดิมที่รักษาจะส่งตัวผู้ป่วยไปตรวจการนอนและให้ใส่ทันตอุปกรณ์นอนในคืนที่ตรวจ เพื่อประเมินผลการรักษาจากค่าดัชนี การหยุดหายใจ และระดับออกซิเจนในเลือด หลังจากนั้นผู้ป่วยจึงมานัดติดตามอาการกับทั้งทั้งทันแพทย์และแพทย์ ซึ่งเป็นผู้รักษาร่วมกัน ในระยะแรกที่ใส่ทันตอุปกรณ์ทันตแพทย์จะให้ท่านปรับตัวกับเครื่องมือ ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดท่านติดตามอาการ และเริ่มให้ผู้ป่วยปรับทันตอุปกรณ์ให้ยื่นมากขึ้น เพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น จนอาการดีแล้ว ทันตแพทย์จะส่งตัวผู้ป่วยให้แพทย์เพื่อตรวจการนอน ซ้ำโดยต้องสวมทันตอุปกรณ์ด้วย ผู้ป่วยควรใส่ทันตอุปกรณ์ร่วมกับการรักษาอื่นๆ ที่ทันตแพทย์และแพทย์แนะนำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และควรรับการตรวจเพื่อติดตามอาการกับแพทย์และทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผู้ป่วยใช้ทันตอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย รวมทั้งแก้ไขปัญหา หรือภาวะแทรก ซ้อนจากการักษาอย่างดีที่สุด
เมื่อถอดทันตอุปกรณ์ตอนตื่นนอนทุกเช้าให้ล้างด้วยน้ำสบู่ ร่วมกับใช้แปรงสีฟันขนอ่อนขัดเบาๆ ทั้งด้านใน และด้าน หน้า หรือหาอ่างรองป้องกันการตกพื้น ซับน้ำให้แห้งแล้วเก็บไว้ในกล่องที่ให้แช่ด้วยน้ำยา หรือเม็ดแช่ทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แช่นานประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดซับน้ำส่วนเกินเก็บแห้งในกล่อง ห้ามใช้น้ำร้อนลวก เพราะทำให้อุปกรณ์เสียรูป ห้ามใช้ยาสีฟันขัดเพราะ ผงขัดจากยาสีฟันอาจเข้าไปอุดในเกลียวหรือร่องเล็กได้ หมั่นตรวจตามอาการให้นำอุปกรณ์ทุกอย่างที่ได้รับทุกชิ้นมาให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพด้วย
ผศ.ดร.ทพญ. เปรมทิพย์ ชลิดาพงศ์
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านระบบบดเคี้ยวและความเจ็บปวดบริเวณช่องปากใบหน้า - ทันตเวชศาสตร์การนอน